จอ IPS LCD 90Hz ดีพอสำหรับเล่นเกมไหม? เข้าใจ Refresh Rate แบบง่ายๆ สำหรับคนใช้แท็บเล็ต Black Shark Pad 7

ถ้าคุณกำลังเล็งซื้อแท็บเล็ตใหม่สักเครื่อง เพื่อเอาไว้เรียนออนไลน์ ทำงานกลุ่ม ดูหนัง หรือไม่ก็เล่นเกมยาวๆ แบบฟินๆ สิ่งหนึ่งที่หลายคนมักมองข้ามคือ Refresh Rate ของหน้าจอ

บางทีเราเห็นคำว่า จอ 90Hz, 120Hz, IPS LCD, AMOLED โอ๊ยเยอะไปหมด จนงงกว่าอ่านข้อสอบไฟนอลอีก!
แต่ใจเย็นๆ ก่อน เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังแบบ ภาษาคนธรรมดา ที่ไม่ต้องเป็นโปรด้านเทคโนโลยีก็เข้าใจได้ชัวร์

วันนี้เราจะคุยกันเรื่อง

จอ IPS LCD 90Hz ดีพอสำหรับเล่นเกมไหม?
และ
Refresh Rate สำคัญยังไงกับแท็บเล็ตปี 2025

ไปครับ เริ่ม!

Refresh Rate คืออะไร? (แบบที่เข้าใจง่ายที่สุด)

ถ้าพูดให้เห็นภาพ Refresh Rate = ความถี่ที่หน้าจอ รีเฟรชภาพใหม่ต่อวินาที
ยิ่งตัวเลขสูง ภาพก็ยิ่งลื่น ละมุนตา และตอบสนองไวขึ้น

60Hz = อัตรามาตรฐาน
90Hz = ลื่นขึ้นชัดเจน
120Hz = เลื่อนนิ้วแล้วรู้สึกเหมือนลอย
144Hz+ = สายเกมเมอร์ตัวจริงเท่านั้นที่อิน
จะว่าไปมันก็เหมือนกับเวลาเลื่อนหน้าฟีด TikTok หรือ IG ถ้า Refresh Rate สูง หน้าจอจะเลื่อนไหลแบบไม่มีสะดุด เหมือนป้ายโฆษณาที่กำลัง ลื่นเกินปกติ นั่นแหละ

แล้ว IPS LCD 90Hz ล่ะ? ดีพอสำหรับเล่นเกมจริงไหม?
บอกตรงๆ เลยว่า ดีพอ มากกว่าที่หลายคนคิด!
เพราะจอ IPS LCD สมัยนี้ไม่ได้หม่นหรือสีจืดแบบรุ่นเก่าอีกแล้ว

ในแท็บเล็ตระดับราคาไม่เกินหมื่น

จอ IPS LCD 90Hz ถือว่าเป็น โซนนิ่งที่สมดุลที่สุด ระหว่างราคา ความลื่น และความคมชัด

ทำไม?

สีตรง มุมองศากว้าง
ไม่ว่าเล่นเกมแนว MOBA หรือ FPS ก็เห็นภาพเพื่อนร่วมทีมและศัตรูชัดแบบไม่หลอกตา
90Hz = ลื่นกว่า 60Hz แบบรู้สึกได้ทันที
เวลาลากสกิล ลากนิ้ว ฟีลมันจะลื่นกว่าเดิมแบบชัดเจน
โดยเฉพาะ ROV หรือ Free Fire นี่เห็นเลย

ค่ารีเฟรชไม่กินแบตเท่า 120Hz

พูดง่ายๆ คือได้ความลื่น แต่ไม่ต้องแลกกับแบตไหลเร็วเกินไป
นักเรียนพนักงานออฟฟิศใช้ทั้งวันก็สบาย
เหมาะมากสำหรับแท็บเล็ต

เพราะจอใหญ่ ถ้า Refresh Rate เตี้ยเกินจะเห็นความหน่วงชัด
90Hz เลยเป็น sweet spot ที่ลงตัวสุดๆ
ดังนั้นถ้าคุณถามว่า เล่นเกมโอเคไหม?
คำตอบแบบตรงๆ คือ โอเคมากกกก
ไม่ต้องมี 120Hz ก็สนุกได้แบบไม่ขัดใจ

แล้วทำไม Refresh Rate ถึงสำคัญในแท็บเล็ตล่ะ?
เพราะแท็บเล็ต = หน้าจอใหญ่กว่าโทรศัพท์
และจอใหญ่ = ถ้าลื่นไม่พอ จะ รู้สึกติดๆ ขัดๆ ทันที

นี่คือเหตุผลว่าทำไม Refresh Rate ถึงสำคัญ:

1) เลื่อนหน้าจอแล้วรู้สึก ดีขึ้นแบบไม่รู้ตัว
ไม่ว่าจะเรียนออนไลน์ เปิด PDF 200 หน้า หรืออ่านสไลด์ยาวๆ
90Hz จะทำให้การเลื่อนนิ้ว ลื่น และ ไหล จนอ่านสบายตากว่า 60Hz ชัดเจน

2) เล่นเกมที่มีการเคลื่อนไหวเยอะได้สนุกกว่า
เกมอย่าง ROV, PUBG Mobile, Free Fire, Genshin
มีการเคลื่อนไหวเร็วมาก
90Hz จะช่วยลดอาการเบลอหรือกระตุกเวลาแพนกล้อง

3) ลดความล้าของตา
ภาพลื่น = สมองประมวลผลสบายขึ้น
ใครที่เรียนออนไลน์ทั้งวันหรือใช้ทำงาน จะเข้าใจฟีลนี้ดี

4) ช่วยให้การวาดภาพ/จดโน้ตรู้สึกเป็นธรรมชาติ
ใครใช้ปากกาดิจิทัลจะยิ้มเลย เพราะเส้นตอบสนองไวกว่าเดิม

แล้วถ้าผมอยากได้ 120Hz ล่ะ? แน่นอนว่า 120Hz ก็ลื่นกว่า แต่ต้องยอมรับว่า:

แบตหมดไวกว่า
ราคาเครื่องสูงขึ้น
ถ้าไม่ได้เล่นเกมที่รองรับ 120FPS = ถือว่าไม่ได้ใช้ความลื่นเต็มที่
เพราะงั้นสำหรับนักเรียนวัยทำงานเริ่มต้น
90Hz คือพอและคุ้มที่สุด


แล้วแท็บเล็ตแบบไหนใช้ IPS LCD 90Hz คุ้มๆ บ้าง?
หนึ่งในตัวอย่างที่มาแรงคือ Black Shark Pad 7
เพราะได้จอ IPS LCD 11 นิ้ว 90Hz + Widevine L1 ดูหนังชัด
และราคาไม่แรงจนกระเป๋าตังค์ร้องไห้

เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการแท็บเล็ต ลื่นแบบใช้จริงได้
ไม่ใช่สเปกระบุมาสวยๆ แต่ใช้งานจริงไม่ไหว

สรุปแบบภาษาคนกันเอง

ถ้าคุณถามแบบเพื่อน

ว่า "IPS LCD 90Hz ดีพอเล่นเกมไหม?" 

บางคนอาจคิดว่า จอ IPS มันสู้ AMOLED ไม่ได้ดิ ก็จริงครับ ถ้าเน้นสีสดสุดๆ แต่สำหรับ เกมเมอร์งบประหยัด IPS มันมีข้อดีเพียบ เช่น

• มุมมองกว้าง เล่นนานๆ ไม่ปวดตาง่าย
  
• สีตรง ไม่ Oversaturated เหมือนบางรุ่น
  
• เสถียรเรื่องอุณหภูมิ เวลาเล่นนานๆ ไม่ Burn-in เหมือน AMOLED
  
• ทำงานคู่กับ 90Hz ได้ดีมากในราคาเอื้อมถึง
  
• สรุปแบบไม่เวอร์ว่า
  
• IPS LCD 90Hz ถือว่า ดีพอ สำหรับการเล่นเกมในชีวิตประจำวัน และคุ้มมากในแท็บเล็ตระดับราคาเริ่มต้นกลาง

คำตอบแบบไม่ต้องคิดคือ:

ดีพอ และคุ้มแบบไม่ต้องห่วงเลย
ได้ความลื่นแบบกำลังดี ภาพสวยใช้ได้ และไม่เปลืองแบตจนเกินไป
ส่วน Refresh Rate สำคัญไหมในแท็บเล็ต?

สำคัญมาก! เพราะหน้าจอใหญ่ ถ้าลื่นไม่พอจะรู้สึกทันที
90Hz = จุดกึ่งกลางที่ลงตัวสำหรับทั้งเรียน ทำงาน และเล่นเกม
ถ้าอยากได้แท็บเล็ตที่ลื่น ใช้งานได้จริงทุกด้าน
จอ 90Hz + IPS LCD ในเรทราคาคุ้มๆ คือตัวเลือกที่ไม่ผิดหวังแน่นอน