แชร์

พัดลมพกพาเอาขึ้นเครื่องได้ไหม? สรุปกฎใหม่ปี 2025 พร้อมรุ่นแนะนำที่ผ่านมาตรฐานสายการบิน

อัพเดทล่าสุด: 25 ต.ค. 2025

พัดลมพกพาเอาขึ้นเครื่องได้ไหม? เรื่องจริงจากผู้เดินทาง

 

ผมยังจำได้ดีตอนหนึ่งที่ผมขึ้นเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ ช่วงเช้าตรู่ อากาศเย็นหน่อยแต่พอเปิดเครื่องขึ้นฟ้า ครึ่งทางเริ่มอึดอัด ผมหยิบ พัดลมพกพา ออกมาจากกระเป๋า แล้วก็คิดทันทีว่า เอ๊ะ นำขึ้นเครื่องได้ไหมนะ?

เพราะผมเคยได้ยินว่าสายการบินมีกฎเหล็กเรื่องแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน อีกทั้งอุปกรณ์พกพาต่าง ๆ ก็มีข้อจำกัด นั่นจึงเป็นที่มาของบทความนี้ครับ ผมรวบรวมทุกอย่างที่ค้นเจอ ร่วมกับประสบการณ์การเดินทางจริง เอามาสรุปให้ว่า พัดลมพกพา นำขึ้นเครื่องได้ไหม และ ต้องระวังอะไรบ้าง

 

 

กฎหลักที่ควรรู้ก่อนพกอุปกรณ์ขึ้นเครื่อง

 

จากการตรวจสอบกฎของหลายประเทศรวมถึงของ Federal Aviation Administration (FAA) และ International Air Transport Association (IATA) พบว่า สิ่งที่ สายการบินและเจ้าหน้าที่สนามบิน ให้ความสนใจคือ ความจุไฟฟ้า (Wh: Watt-hour) ของแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนในอุปกรณ์พกพา โดยมีหลักการคร่าว ๆ ดังนี้

 

  • ถ้าแบตเตอรี่พกพา ไม่เกิน 100 Wh โดยทั่วไป อนุญาตให้พกขึ้นเครื่อง โดยไม่ต้องขออนุญาตพิเศษ
  • ถ้าอยู่ในช่วง 101-160 Wh อาจต้องขออนุญาตจากสายการบินก่อน และอาจจำกัดจำนวนด้วย
  • หากมากกว่า 160 Wh โดยทั่วไปห้ามนำขึ้นเครื่อง
  • และที่สำคัญ: ห้ามใส่ในกระเป๋าส่งใต้ท้องเครื่อง (Checked-baggage) ต้องอยู่ในกระเป๋าถือ (Carry-on) เท่านั้น

แม้สายการบินบางแห่งอาจยืดหยุ่นได้ในช่วง 101-160 Wh แต่โดยทั่วไปถ้าไม่เกิน 100 Wh เราจะปลอดภัยกว่าเยอะ

 

แล้ว พัดลมพกพา จะอยู่ในเกณฑ์ได้ไหม?


เมื่อพูดถึงพัดลมพกพา มีสองกรณีที่ผมพบตามประสบการณ์และข้อมูลจริง:

กรณีที่ 1: พัดลมพกพาแบบ ไม่มีแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนในตัว (หรือแบตเตอรี่เล็กมาก)
เช่น พัดลมพกพาที่เสียบ USB โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขนาดเล็กหรือจาก power bank ที่แยกออก ในหลายครั้งจะ ผ่านได้ง่าย เพราะความจุแบตเตอรี่ไม่สูง และไม่มีการระบุ Wh ใหญ่ ๆ

กรณีที่ 2: พัดลมพกพาแบบ มีแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่ฝังอยู่/ความจุสูง
เช่น รุ่นที่มีความจุ 10,000 mAh / 20,000 mAh หรือมีแรงดันภายในสูง ซึ่งอาจมี Wh สูงพอสมควร ถ้า Wh เกิน 100 อาจให้เจ้าหน้าที่สงสัยได้

 

ดังนั้น ก่อนซื้อหรือพกขึ้นเครื่อง ผมแนะนำให้ ตรวจสอบฉลาก หรือ สเปค ตามนี้:

 

  • มีการระบุ Wh ไว้หรือไม่
  • ถ้าระบุแค่ mAh และแรงดัน (V) ให้คำนวณเพิ่ม: Wh (mAh ÷ 1000) × V
  • ตรวจดูว่าพัดลม/แบตอยู่ในกระเป๋าถือ (carry-on) ไม่ใช่กระเป๋าส่ง

 

ประสบการณ์จริงที่เจอมา

ผมเคยพกพัดลมพกพารุ่นหนึ่งขึ้นเครื่องกับเพื่อนคนหนึ่ง เป็นรุ่นที่มีแบตเตอรี่ในตัวประมาณ 10,000 mAh แต่ไม่มีการระบุ Wh เลย เมื่อผ่านการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ถามว่า This has a built-in battery, do you know its watt-hours? เราได้ยืนรอประมาณ 2 นาที ก่อนโชคดีว่าเจ้าหน้าที่มองว่า ไม่ใหญ่เกินไป แล้วอนุญาตขึ้นได้ ข้อสังเกตจากเหตุการณ์นี้คือ:

 

  • เจ้าหน้าที่สนใจ แบตเตอรี่ติดตั้งในตัวอุปกรณ์ มากกว่าที่คิด
  • ถ้าไม่มีฉลาก Wh หรือข้อมูลชัดเจนอาจมีการถามหรือสงสัยได้
  • การเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าช่วยลดความกังวล เช่น เก็บใบสเปคหรือข้อมูลไว้ในมือถือ

 

 

 

 

 

สรุปสั้น ๆ ว่า พัดลมพกพา ขึ้นเครื่องได้ หรือไม่


ถ้าพัดลมพกพามีแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนในตัว:

ถ้า Wh 100 โดยทั่วไป พกขึ้นเครื่องได้ (ในกระเป๋าถือ)
ถ้า Wh ไม่ชัดเจน ให้มีหลักฐานหรือสเปคไว้เผื่อตรวจสอบ
อย่าใส่ลงในกระเป๋าส่งใต้เครื่อง
หากใช้แบตเตอรี่แยก (power bank) พกให้ถูกต้องตามกฎ
หากพัดลมพกพาไม่มีแบตเตอรี่ที่ซับซ้อน หรือใช้ไฟจาก USB เล็ก ๆ มักผ่านได้ง่ายกว่า


เคล็ดลับสำหรับผู้เดินทาง


เก็บพัดลมพกพา ในกระเป๋าถือติดตัว ไม่ควรวางไว้ในช่องเก็บเหนือศีรษะหรือใต้เครื่อง
ถ้าแบตเตอรี่มีขั้วที่อาจลัดวงจร ใช้เทปปิดขั้วหรือเก็บในซองกันไฟ
หลีกเลี่ยงพัดลมพกพาที่มีแบตเตอรี่บวม ชำรุด หรือไม่มีฉลากมาตรฐาน
ถ้าจะใช้บนเครื่องบิน (ระหว่างบิน) ตรวจให้รู้ว่าอนุญาตหรือไม่ (หลายสายการบินเริ่มห้ามใช้/ห้ามชาร์จอุปกรณ์ที่มีแบตเตอรี่)
ก่อนบิน ตรวจสอบ นโยบายอุปกรณ์พกพา/แบตเตอรี่ ของสายการบินนั้น ๆ เพราะอาจมีข้อจำกัดเพิ่มเติม


บทความที่เกี่ยวข้อง
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy